เอลนีโญ พ่นพิษส่งท้าย เม.ย. ร้อนจัดจับตา 1-2 วันนี้ จ่อพีคไฟฟ้าทุบสถิติประเทศรอบ 3 หลังผ่านพีคสูงสุด 36,356 เมกะวัตต์ ไปเมื่อ 27 เม.ย. 2567
เอลนีโญ ส่งท้ายเดือน เม.ย. อากาศร้อนที่สุด 29-30 เม.ย. 2567 แตะ 44 องศาเซลเซียส พลังงานคาดยอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) เป็นประวัติการณ์ยังมีโอกาสเกิดขึ้นอีก แม้สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพีคไฟฟ้าสูงสุดทำลายสถิติประเทศรอบ 2 จะเกิดขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 ช่วงค่ำ 20.57 น. ประชาชนใช้ไฟฟ้าพุ่งทะลุ 36,356 เมกะว้ตต์ แต่หากอากาศยังร้อนสะสม ไม่มีฝนมาช่วย สถิติพีคไฟฟ้าใหม่อาจเกิดขึ้นอีก ชี้แค่ช่วงกลางวัน 29 เม.ย. 2567 ยอดใช้ไฟฟ้าพุ่งไปถึง 34,728 เมกะวัตต์แล้ว
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า ประเทศไทยยังมีแนวโน้มที่จะเกิดยอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (พีคไฟฟ้า) อีกครั้ง หากเป็นไปตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกมาประเมินว่าประเทศไทยจะมีสภาพอากาศร้อนที่สุดส่งท้ายเดือน เม.ย. 2567 ระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย. 2567 นี้ โดยอุณหภูมิสูงสุดจะแตะถึง 44 องศาเซลเซียส ก่อนจะทยอยเปลี่ยนผ่านจากปรากฎการณ์เอลนีโญไปสู่ปรากฎการณ์ลานีญา
โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) รายงานสถิติยอดรวมการใช้ไฟฟ้าของไทยจาก 3 การไฟฟ้า (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. , การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA และการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน.) พบว่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวันที่ 27 เม.ย. 2567 เกิดสภาพอากาศร้อนจัดทั่วประเทศ ซึ่งสะสมความร้อนต่อเนื่องมาหลายวัน ส่งผลให้ประชาชนใช้ไฟฟ้ามากขึ้นจนเกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดสร้างสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์ถึง 36,356 เมกะวัตต์ เมื่อช่วงค่ำเวลา 20.57 น. ซึ่งถือเป็นพีคไฟฟ้าที่สูงสุดของประเทศไทยครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในปี 2567 โดยครั้งที่ 1 เกิดพีคไฟฟ้าเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 เวลา 20.58 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 35,830 เมกะวัตต์ทั้งนี้เป็นไปตามคาดการณ์ที่ สำนักงาน กกพ. ประเมินว่า ยอดใช้ไฟฟ้าในปี 2567 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดถึง 36,000 เมกะวัตต์ได้ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดทั่วประเทศ และแม้ว่าประชาชนจะพยายามประหยัดการใช้ไฟฟ้าแล้วก็ตาม แต่สภาพอากาศที่ร้อนจัดเกินไป ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องทำงานหนักขึ้น เป็นเหตุให้ยอดการใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นด้วยโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
อย่างไรก็ตามเมื่อติดตามภาพรวมการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ต้นปี 2567 จะพบว่า เกิดพีคไฟฟ้าเฉพาะของปี 2567 ขึ้น 9 ครั้ง โดยมี 2 ครั้งที่นับเป็นพีคไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศไทย ดังนี้
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.24 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989.3 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,340 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 เวลา 20.51 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,827.1 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,196.5 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2567 เวลา 22.22 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,277.4 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2567 เวลา 20.54 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,656.4 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 เวลา 20.57 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 36,356.1 เมกะวัตต์ (สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 2)
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าพีคไฟฟ้าตลอดปี 2567 ที่เกิดขึ้น จะเกิดในช่วงกลางคืนเท่านั้น เนื่องจากในช่วงกลางวันมีการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันมีการติดตั้งใช้งานอยู่ประมาณ 3,000 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ช่วยตัดยอดพีคในช่วงกลางวันลงได้ และในตอนกลางคืนประชาชนจะกลับมาใช้ไฟฟ้าในระบบ 3 การไฟฟ้าตามปกติ จึงส่งผลให้พีคไฟฟ้าไปเกิดในช่วงกลางคืนแทน
นอกจากนี้เมื่อย้อนดูสถิติยอดใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือนของไทย นับตั้งแต่เดือน ม.ค.- เม.ย. 2567 ก็มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง เช่นกัน โดยเฉพาะในเดือน เม.ย. 2567 ดังนี้
เดือน ม.ค. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 11 ม.ค. 2567 เวลา 18.52 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 29,051.3 เมกะวัตต์
เดือน ก.พ. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.29 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989.3 เมกะวัตต์
เดือน มี.ค. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 7 มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์
เดือน เม.ย. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 27 เม.ย. 2567 เวลา 20.57 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 36,356.1 เมกะวัตต์
สำหรับในวันนี้ 29 เม.ย. 2567 ยอดใช้ไฟฟ้าสูงสุด ณ เวลา 14.10 น. เริ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 34,728 เมกะวัตต์แล้ว ดังนั้นมีโอกาสที่จะเกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดทำลายสถิติประเทศอีกครั้งใน 1-2 วันนี้ได้ หากอากาศยังร้อนสะสมและไม่มีฝนตกในไทย อย่างไรก็ตามแม้ไทยจะเกิดยอดพีคไฟฟ้าที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 36,356 เมกะวัตต์ แต่กำลังผลิตไฟฟ้าของไทยยังมีมากถึง 53,852 เมกะวัตต์ ดังนั้นมั่นใจได้ว่าไทยจะไม่เกิดปัญหาไฟฟ้าตกดับ อย่างแน่นอน